google.com, pub-7210489494173388, DIRECT, f08c47fec0942fa0 อุตรดิตถ์เมืองงาม : 2015

9.23.2558

ร้านพาสต้า Pasta

PASTA-อุตรดิตถ์ ขอแนะนำร้านอาหาร/คาเฟ่ จำหน่ายอาหารฝรั่ง,ไทย หลากหลายเมนู อร่อย,ราคาไม่แพง,ร้านสวยงาม เหมาะสำหรับอาหารกลางวันและอาหารค่ำ
อยู่ที่-54 ถ.แปดวา ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ Uttaradit,Thailand 53000(หน้า ว.อาชีวศึกษา) 081-1687820
PASTA RESTAURANT

















9.22.2558

ร้านอาหารในจังหวัดอุตรดิตถ์

ร้านอาหาร
Restaurant

   1. ร้าน"กิมไล้" อาหารไทย  อยู่ตรงซอยโพทิพย์ ถนนบรมอาสน์ ตรงกันข้ามฟรายเดย์สรรพสินค้า
                                        
    2.ร้านเล้งเลือดหมู     ตั้งอยู่ 137 ถ.บรมอาสน์ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์  โทรศัพท์ : 0 55412 053 






      3.ร้านศรีวัยข้าวมันไก่ 161/2 ถ.บรมอาสน์ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์  0 55414 121
  
    4.ร้านน้อยไก่ย่าง ถ.อินใจมี อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์(ตรงกันข้าม โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์)



     5.ร้านปั๊กเป้า  464 ถ.สายเขื่อนสิริกิติ์-ปากฝาง อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์  0 55413 364
     6.ร้านแม่วิมล  ถ.สายเขื่อนสิริกิติ์-ปากฝาง อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์







      7.ร้านกุ๊กป๋อง  ถ.เจษฎาบดินทร์ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์  0 55416 004
      8.ร้านตากะยาย ตลาดคลองโพ ถ.บรมอาสน์ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
      9.ร้านตักเงิน  ถ.พาดวารี(สาขา 1)ถ.ศรีชาววัง(สาขา 2) อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

10.ร้านอาหารนิวยอร์ค NEWYORK อเมริกัน เยอรมันและอาหารไทย ถ.บรมอาสน์ ซ.ร้านศรีชัยยนต์การ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

9.21.2558

COFFEE & BAKERY

แนะนำ>>ร้านกาแฟและเบเกอรี่...มีน้ำผลไม้ เครื่องดื่ม ชากาแฟ,เบเกอรี่ เค้ก อร่อยมากๆที่สุดร้านหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์
บรรยากาศ>>ภายในร้านสวยงาม ร่มรื่น มีบริการอินเตอร์น็ต
เหมาะสำหรับ>>พบปะเพื่อนฝูง สังสรรค์,เลี้ยงรับรองแขก
ที่ตั้ง>>ถ.อินใจมี ซ.3 อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ 53000(ซอย 3 ตรงข้าม ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์) โทร.055-414705

9.20.2558

อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน

     อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่านได้รับการประกาศ เป็นอุทยานแห่งชาตลำดับที่ 87 เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2541 มีขนาดพื้นที่ประมาณ 999.15 ตารางกิโลเมตร (624,468 ไร่) อยู่ใน อ.เมือง จ.แพร่ และ อ.ท่าปลา อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เดิมเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ป่าลำน้ำน่านฝั่งขวา ป่าจริม ป่าน้ำปาด ป่าแม่แคม ป่าแม่ก๋อนและป่าแม่สาย ก่อนยกฐานะเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าอนุรักษ์และรักษาสภาพแวดล้อม ด้วยสภาพที่มีทั้งพื้นป่าสมบูรณ์และอ่างเก็บน้ำ น้ำอยู่ในพื้นที่เดียวกันทำให้อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่านมีสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามหลากหลายทั้งน้ำตก ภูเขา ตลอดจนทิวทัศน์เหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์
     อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน หมูู่ที่ 8 ตำบลผาเลือด อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ 53190 โทรศัพท์ : 055 436751,08 5049 4164 Email : reserve@dnp.go.th จองบ้านพักอุทยาน
http://www.dnp.go.th/parkreserve/




9.19.2558

จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ (Phu Doo International Point Of Entry)

จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ (Phu Doo International Point Of Entry) ตั้งอยู่ที่ บ้านภูดู่ หมู่ที่ 2 ตำบลม่วงเจ็ดต้น อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ฝั่งตรงข้ามติดต่อกับด่านท้องถิ่นผาแก้ว บ้านผาแก้ว เมืองปากลาย แขวงไชยบุรี ประเทศลาว เดิมมีฐานะเป็นเพียงจุดผ่อนปรนชั่วคราวซึ่งเปิดในวันศุกร์และวันเสาร์ แต่ปัจจุบันทางคณะรัฐมนตรีได้ยกระดับช่องภูดู่ให้เป็นจุดผ่อนปรนถาวรช่องภูดู่ อุตรดิตถ์ จึงเป็นเส้นผ่านทางอีกแห่งใรอินโดจีนของกลุ่มอินโดจีน วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2556 กระทรวงมหาดไทยประกาศยกระดับขึ้นเป็นจุดผ่านแดนถาวรภู่ดู่
ประวัติ
ด่านภูดู่ในอดีต คือ เส้นทางคมนาคมระหว่างกรุงสุโขทัย กับกรุงศรีสัตนาคนหุต (ประเทศลาว) โดยการเดินทางได้ปรากฎในศิลาจารึกหลักที่ 1 ที่มีตัวอักษรจารึกไว้ว่า "การเดินทางไปยังอาณาจักรล้านช้างต้องใช้เมืองสวางคบุรีเป็น ทางผ่านในการขนส่งสินค้าจากกรุงสุโขทัยไปยังล้านช้าง" ซึ่งจากคำจารึกนี้ สามารถบอกได้ว่าอุตรดิตถ์นั้น เดิมเป็นทางผ่านจากกรุงสุโขทัยไปยังล้านช้าง เมืองสวงาคบุรีที่กล่าวถึง คือ เมือง เมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดอุตรดิตถ์ มีหลักฐานบางอย่างกล่าวว่าเป็นเมืองลูกหลวงของอาณาจักรสุโขทัย แต่ในหนังสือประวัติศาสตร์จะไม่ปรากฎชื่อเมืองสวางคบุรีเป็นเมืองลูกหลวง ในเชิงวิชาการสามารถอธิบายได้ว่า อุตรดิตถ์เป็นเมืองผ่านที่สำคัญในสมัยกรุงสุโขทัย เพราะการเดินทางไปยังลาวต้องใช้เส้นทางนี้ผ่านไปยังล้านช้าง คือ ด่านภูดู่ อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์
ปัจจุบันด่านถาวรภูดู่เป็นด่านชายแดน ไทย-ลาว ซึ่งก็คือจากอุตรดิตถ์ไปยังแขวงไชยบุรี ซึ่งจะทำบริเวณเป็นบริเวณติดต่อระหว่างประเทศพม่า ไปยังหลวงพระบาง ประเทสลาวและจากคุนหมิงมาไทย หรือจะเป็นเส้นทางจากฮานอย ประเทศเวียดนามมา ประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างถนนระหว่างช่องภูดู่-เมืองปากลาย ประเทศลาว รวมทั้งการเชื่อมต่อทางหมายเลข 11 ของประเทศลาวมายังจุดตัดถนน ภูดู่-ปากลาย ซึ่งเป็นระยะทางการเดินทางของประเทศไทยที่สั้นที่สุดในการเดินทางเข้าสู่ กรุงเวียงจันทน์ และเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว สำหรับด่านท้องถิ่นผาแก้วฝั่งตรงข้ามด่านถาวรภูดู่จะได้รับการยกระดับเป็น ด่านสากลเมื่อการก่อสร้างถนนบ้านผาแก้ว-ปากลายเสร็จในช่วงกลางปี 2557



การเดินทาง
ใช้ทางหลวงหมายเลข 1405 (ถนนเลียบคลองชลประทาน) จากจุดตัดในเมืองอุตรดิตถ์จนถึงแยกวังสีสูบ จะมีป้ายบอกทางไปด่านภูดู่ตรงไปจะเป็นถนน 2 เลน ช่วงไหล่ระหว่างทางถึงด่านภูดู่กำลังมีการขยายถนนเป็น 4 เลน จนถึงด่านภูดู่ ฝั่งลาวสภาพถนนยังเป็นลูกรังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างถนนจากด่านภูดู่-ปากลาย แขวงไชยบุรี เพื่อเชื่อมไปยังเวียงจันทน์ ประเทศลาว
ที่มา : http://th.wikipedia.org/จุดผ่อนปรนถาวร_ช่องภูดู่


8.14.2558

พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล


LapLae Museum

ประติมากรรมแม่ม่ายเมืองลับแล
ตำนานเมืองลับแล
เมืองลับแลนั้นเป็นอำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ แต่เดิมคงเป็นเมืองที่การเดินทางไปมาไม่สะดวก เส้นทางคดเคี้ยว ทำให้คนที่ไม่ชำนาญทางพลัดหลงได้ง่าย จนได้ชื่อว่าเมืองลับแล ซึ่งแปลว่า มองไม่เห็น มีเรื่องเล่ากันว่าคนมีบุญเท่านั้นจึงจะได้เข้าไปถึงเมืองลับแล

ประติมากรรมแม่ม่ายเมืองลับแล บริเวณประตูเมืองลับแล (ใหม่) แสดงถึงตำนานเล่าขานของเมืองลับแลอันเป็นที่เลื่องลือมาช้านาน

ตำนานนี้เล่ากันสืบมาว่า ครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่ง (น่าจะเป็นคนเมืองทุ่งยั้ง) เข้าไปในป่า ได้เห็นหญิงสาวสวยหลายคนเดินออกมา ครั้นมาถึงชายป่า นางเหล่านั้นก็เอาใบไม้ที่ถือมาไปซ่อนไว้ในที่ต่างๆ แล้วก็เข้าไปในเมือง ด้วยความสงสัยชายหนุ่มจึงแอบหยิบใบไม้มาเก็บไว้ใบหนึ่ง ตกบ่ายหญิงสาวเหล่านั้นกลับมา ต่างก็หาใบไม้ที่ตนซ่อนไว้ ครั้นได้แล้วก็ถือใบไม้นั้นเดินหายลับไป มีหญิงสาวคนหนึ่งหาใบไม้ไม่พบ เพราะชายหนุ่มแอบหยิบมา นางวิตกเดือดร้อนมาก ชายหนุ่มจึงปรากฏตัวให้เห็นและคืนใบไม้ให้ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือ ขอติดตามนางไปด้วยเพราะปรารถนาจะได้เห็นเมืองลับแล หญิงสาวก็ยินยอม นางจึงพาชายหนุ่มเข้าไปยังเมืองซึ่งชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าทั้งเมืองมีแต่ผู้หญิง นางอธิบายว่าคนในหมู่บ้านล้วนมีศีลธรรม ถือวาจาสัตย์ ใครประพฤติผิดก็ต้องออกจากหมู่บ้านไป ผู้ชายส่วนมากมักไม่รักษาวาจาสัตย์จึงต้องออกจากหมู่บ้านกันไปหมด แล้วนางก็พาชายหนุ่มไปพบมารดาของนาง ชายหนุ่มเกิดความรักใคร่ในตัวนางจึงขออาศัยอยู่ด้วย มารดาของหญิงสาวก็ยินยอม แต่ให้ชายหนุ่มสัญญาว่าจะต้องอยู่ในศีลธรรม ไม่พูดเท็จ ชายหนุ่มได้แต่งงานกับหญิงสาวชาวลับแลจนมีบุตรชายด้วยกัน 1 คน
วันหนึ่งขณะที่ภรรยาไม่อยู่บ้าน ชายหนุ่มผู้พ่อเลี้ยงบุตรอยู่ บุตรน้อยเกิดร้องไห้หาแม่ไม่ยอมหยุด ผู้เป็นพ่อจึงปลอบว่า "แม่มาแล้วๆ" มารดาของภรรยาได้ยินเข้าก็โกรธมากที่บุตรเขยพูดเท็จ เมื่อบุตรสาวกลับมาก็บอกให้รู้เรื่อง ฝ่ายภรรยาของชายหนุ่มเสียใจมากที่สามีไม่รักษาวาจาสัตย์ นางบอกให้เขาออกจากหมู่บ้านไปเสีย แล้วนางก็จัดหาย่ามใส่เสบียงอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้สามี พร้อมทั้งขุดหัวขมิ้นใส่ลงไปด้วยเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็พาสามีไปยังชายป่า ชี้ทางให้ แล้วนางก็กลับไปเมืองลับแล ชายหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไรก็จำต้องเดินทางกลับบ้านตามที่ภรรยาชี้ทางให้ ระหว่างทางที่เดินไปนั้น เขามีความรู้สึกว่าถุงย่ามที่ถือมาหนักขึ้นเรื่อยๆ และหนทางก็ไกลมาก จึงหยิบเอาขมิ้นที่ภรรยาใส่มาให้ทิ้งเสียจนเกือบหมด ครั้นเดินทางกลับไปถึงหมู่บ้านเดิม บรรดาญาติมิตรต่างก็ซักถามว่าหายไปอยู่ที่ไหนมาเป็นเวลานาน ชายหนุ่มจึงเล่าให้ฟังโดยละเอียดรวมทั้งเรื่องขมิ้นที่ภรรยาใส่ย่ามมาให้แต่เขาทิ้งไปเกือบหมด เหลืออยู่เพียงแง่งเดียว พร้อมทั้งหยิบขมิ้นที่เหลืออยู่ออกมา ปรากฏว่าขมิ้นนั้นกลับกลายเป็นทองคำทั้งแท่ง ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจและเสียดาย จึงพยายามย้อนไปเพื่อหาขมิ้นที่ทิ้งไว้ ปรากฏว่าขมิ้นเหล่านั้นได้งอกเป็นต้นไปหมดแล้ว และเมื่อขุดดุก็พบแต่แง่งขมิ้นธรรมดาที่มีสีเหลืองทอง แต่ไม่ใช่ทองเหมือนแง่งที่เขาได้ไป เขาพยายามหาทางกลับไปเมืองลับแล แต่ก็หลงทางวกวนไปไม่ถูก จนในที่สุดก็ต้องละความพยายามกลับไปอยู่หมู่บ้านของตนตามเดิม
ที่มา : https://th.wikipedia.org/WIKI/อำเภอลับแล

พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล(Laplae Museum)






















































ที่มา : พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล












โพสต์แนะนำ

ที่พักในจังหวัดอุตรดิตถ์

ที่พักใน จังหวัดอุตรดิตถ์ อุตรดิตถ์         แนะนำที่พักจากทั่วเมือง ตั้งแต่โรงแรม,รีสอร์ท จนถึงเกสต์เฮาส์ เพื่อตอบสนองทุกความต้องก...